พญายมราช Lord of Death
ภาพรอบนอกวง หมายถึง ภาพอมนุษย์ หรือจะเรียกว่าอำนาจอวิชชา อันดำมืดดุจพญามารก็ได้ ตัวอมนุษย์ตนนี้อยู่ในลักษณาการจับยึดวงล้อ หรือวงจักรด้วยดวงตาที่ดุร้าย หมายทำลายล้าง
ท่านอาจารย์พุทธทาสชี้ให้พิจารณาดูว่า อมนุษย์ตนนี้มีดวงตาที่สาม อยู่กลางหน้าผาก ความหมายของดวงตาสองข้างที่เปิดกว้าง หมายขบกัด หรือกลืนกินนั้น ท่านหมายว่าเป็นดวงตาของกิเลส ตัณหา ราคะ โทสะ โมหะ ซึ่งครอบงำโลกทั้งหลาย หรือครอบงำจิตใจของมนุษย์ไว้ในกำมือ หรือเขี้ยวเล็บอันน่าสะพรึงกลัว อำนาจนี้กำลังเผาผลาญโลก คือ ภพในกาย ยาววา หนาคืบ กว้างกำมือ นี่เอง
ดวงตาที่สามกลางหน้าผากอมนุษย์ คืออะไร? นั่นคือแสงสว่างแห่งปัญญา หรือแสงสว่างแห่งพุทธะ ที่มีอยู่ในตัวคน หากปัญญาไม่กล้าแกร่งพอ ก็จะถูกกิเลสครอบงำได้ในที่สุด
เครื่องประดับเหนือเศียรของอมนุษย์นี้ มีดอกไม้สีน้ำเงิน เกษรสีชมพู พุ่งแหลมออกมา ท่านอุปมาธรรมว่า นั่นคือเหยื่อล่อคล้ายนอสัตว์ ทัดหูทั้งสองข้าง
หัวกะโหลกทั้ง ๕ ที่ปรากฏอยู่เบื้องบน นั้นคือ สื่อความหมายของเบญจขันธ์ บนหัวกะโหลกนั้นมีมรกตสีเขียวอย่างงดงาม นั่นคือ ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ วิญญาณธาตุ สิ่งเหล่านี้ทำงานร่วมกัน อย่างที่เรียกว่า ปล้ำผีลุก ปลุกผีนั่ง ปกติมิได้มีทั้งคน ไม่มีทั้งขันธ์ หรือไม่มีอะไรแต่ธรรมชาติ เป็นอยู่อย่างนั้น ต่อเมื่อมีสิ่งนี้ สิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้ก็เกิดขึ้น คนกับตัวกู ก็เกิดออกมาทันที
ภาพของอมนุษย์ ที่กลืนกินภวจักรหรือสังสารจักรอยู่นั้น อุปมาได้ดังตัวอวิชชาที่ยิ่งใหญ่แล้ว แต่ในส่วนลึกของความโง่ที่มีอยู่นั้น อมนุษย์ตนนี้ยังเก็บซ่อนความมีธาตุรู้ไว้เป็นเครื่องมือแห่งทิพยโสต หรือมีตาทิพย์ไว้ควบคุมมิให้สรรพสิ่งหลุดรอดออกไปจากสังสารจักรนี้ วงล้อแห่งภวจักรหรือสังสารจักรนี้เป็นวงกลมใหญ่ที่หมุนเชี่ยวไปในอวกาศมิรู้หยุด เป็นกระแสแห่งอิทัปปัจจยตา หมุนเวียนวนว่ายไปไม่มีที่สิ้นสุด ล่องลอยหรือซัดโยนไปตามธรรม ไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
อนึ่ง อมนุษย์หรือตัวแทนแห่งอำนาจสีดำของอวิชชานี้ มีหนังเสือถือครอง คล้ายมีเสือเป็นพาหะ ช่วยเพิ่มความดุร้ายแห่งวิญญาณการขบเคี้ยวของพลังเสือร้ายอยู่ในตัวอีกด้วย
ภาพเล็ก ๆ ของคน ๒ คน (ภาพที่คัดลอกใหม่ มีรูปพระพุทธเจ้าพระองค์เดียว) ซึ่งยืนชี้นิ้วและพนมมืออยู่เหนือข้อแขนของอมนุษย์นั้น คือ รูปของพระพุทธเจ้าสถิตอยู่บนดอกบัวบาน พระองค์ทรงชี้ไปข้างหน้า บอกกล่าวแก่ พุทธสาวก ซึ่งยืนพนมมือ อยู่ข้างหน้าพระองค์ว่า
พุทธสาวกทั้งหลาย พวกท่านจงทำลายวงล้อแห่งภวจักร หรือ สังสารจักร ข้างล่างนั้นเสีย แล้วจงใช้ปัญญาวิมุตติ นำพาชีวิตและดวงจิตออกจากวงล้ออันดำมืด ให้สำเร็จ จงยึดถือเอา ธรรมจักรพุทธะ เป็นเครื่องมือแห่งชัยชนะเถิด
ธรรมจักรที่ปรากฏเบื้องซ้ายของอมนุษย์นั้น ล่องลอยอยู่เหนือโลก เหนือความครอบงำทั้งหลายทั้งปวง นั่นคือเครื่องหมายแห่งความว่าง ความสงบ มีแสงสีโอภาส เป็นแสงฉัพพรรณรังสี เปล่งแสงสว่างอยู่ตลอดเวลา